ทำให้ตัวเองเก่งขึ้นวันละนิด ด้วยเทคนิคเรียนรู้ The 5-hour rule

The 5-hour rule หนึ่งในกฎที่คนดังหลายคนได้นำไปปรับใช้ไม่ว่าจะ Bill Gates, Warren Buffet, Jack Ma, Elon Musk คือให้เราเรียนรู้วันละ 1 ชม. “โดยทำแบบนี้ให้ครบ 5 วัน หรือ 1 สัปดาห์”

Last updated on เม.ย. 3, 2024

Posted on มี.ค. 26, 2024

⏳ เมื่อเราทุกคนมีเวลา 24 ชม. ในแต่ละวันเท่ากัน…คุณจะเลือกใช้เวลาอย่างไร ?

เราทุกคนมีจำนวนชั่วโมงในแต่ละวันเท่ากัน และเป็นหน้าที่ของเราที่จะตัดสินใจว่าจะใช้เวลาเหล่านั้นอย่างไร บางคนอาจมี "ช่วงเวลาว่าง" มากกว่าคนอื่น ๆ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ทำงานตั้งแต่เช้าถึงมืดค่ำ ก็อาจจะแทบไม่มีเวลาได้ใช้ชีวิตเลยก็มี

หนึ่งในบทความที่น่าสนใจจาก Big Think ได้เผยเรื่องราวของ “the 5-hour rule” หรือ กฎ 5 ชั่วโมง ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ หากเราสามารถจัดการเวลาในชีวิตเรา ที่ทุกคนมีเท่า ๆ กันได้ มันคือความแตกต่างครั้งใหญ่ของคนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ทั่วไป โดยเฉพาะคนที่มีเป้าหมายในการทำธุรกิจ หรือมีเป้าหมายที่จะพิชิตเรื่องใหญ่ ๆ ในชีวิต เทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนอย่างมาก 

⏳ ใน 1 วันมีองค์ประกอบการใช้ชีวิตอะไรบ้าง ?

1 วันมี 24 ชม. หรือ 1,440 นาที และโดยเฉลี่ยคนเรานอนหลับประมาณ 7-8 ชม. มีข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Our World in Data เผยให้เห็นว่า ประเทศชั้นนำของโลกส่วนใหญ่ใช้เวลากับการพักผ่อนมากถึง 7-9 ชม. ต่อวัน เช่น จีน, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย เป็นต้น จึงเหลือเวลาตื่นอยู่ 15-16 ชม. ต่อวัน เท่ากับว่าเราหักช่วงเวลา 7-8 ชม. ต่อวันออกไป ซึ่งเป็นเวลาที่ส่วนใหญ่ใช้ในการทำงาน และสุดท้ายเราก็จะเหลือเฉลี่ยเพียง 9 ชม. ต่อวันเท่านั้น ที่เป็นเวลาว่างของเรา


⏳ The 5-hour rule คือการนำ 1 ชม. มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เป็นหนึ่งในกฎที่คนดังหลายคนได้นำไปปรับใช้ไม่ว่าจะ Bill Gates, Warren Buffet, Mark Cuban, Jack Ma, Elon Musk, Charlie Munger, Barack Obama และ Paul Tudor Jones โดยแนวคิด กฎ 5 ชม. นี้คือการทุ่มเทให้ 1 ชม. เพื่อ…

💡 เพื่อศึกษาหาความรู้ ในเรื่องที่เราสนใจและเป็นประโยชน์
💡 เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝนสมอง เพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง
💡 เพื่อสร้างวินัย สร้างนิสัยใหม่ให้เราเป็นคนรักการเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ
💡 เพื่อสร้างเป้าหมายให้กับชีวิต ต่อยอดในธุรกิจ หรือเป้าหมายใหญ่ที่เราอยากไปให้ถึง

ซึ่งทั้งหมดจะต้องตอบให้ได้ว่า 1 ชม. ที่เราเสียไปนั้น จะเพิ่มความรู้ หรือทักษะ เพื่อสร้างนิสัยใหม่ให้เราใส่ใจกับการเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ และบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ ซึ่งทุกคนมีเรื่องที่สนใจ เรื่องที่อยากเรียนรู้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และแพสชันการดำเนินชีวิต


⏳ แล้วทำไมกฎถึงชื่อว่า 5 ชม. แต่กลับเรียนรู้แค่ 1 ชม.

แน่นอนว่า 9 ชม. ที่เหลือเราคงไม่สามารถมาทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ได้ทั้งหมด เพราะทุกคนต้องใช้เวลาที่เหลือนั้นในการพักผ่อน ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ หรืออาจจะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ต้องออกไปผ่อนคลาย ไปออกกำลังกาย ไปทำกิจกรรมที่เราอยากทำเพิ่มเติม ดังนั้นมันจึงถูกแบ่งออกมาย่อย ๆ ให้เราเรียนรู้วันละ 1 ชม. “โดยทำแบบนี้ให้ครบ 5 วัน หรือ 1 สัปดาห์ นั่นเอง” โดยที่คุณยังมีเวลาเหลืออีกมากมาย ให้ไปสนุกกับชีวิต และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่


⏳ ขั้นตอนในการเริ่มทำ The 5-hour rule มี 3 ขั้นตอนด้วยกัน

โดยกระบวนการเรียนรู้ภายใน 1 ชม. ให้ครบทั้ง 5 วันนั้นเราต้องมี “เป้าหมาย” ในการเรียนรู้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าแค่อ่าน หรือดูให้ครบจบไปวัน ๆ แต่คุณต้องมีแพสชัน และเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนี้

👍 1. Read (เรียนรู้ด้วยการอ่าน)

การอ่านนับเป็นการเรียนรู้ที่ง่ายที่สุด แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนไม่ชอบอ่านหนังสือ หรือเป็นมนุษย์กองดอง ในยุคสมัยนี้เราก็มีตัวเลือกให้เรียนรู้มากมาย เช่น การฟังพอดแคสต์, หนังสือเสียง, หาความรู้บนโลกอินเทอร์เน็ต หรือใครที่ชอบเรียนคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ ก็นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ดีมาก ๆ ในการเรียนรู้

👍 2. Reflect (เรียนรู้ด้วยการสะท้อนความคิด)

ความล้มเหลวจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันช่วยให้เราสามารถปรับปรุง แก้ไข ต่อไปในอนาคต ตามคำกล่าวของ ซามูเอล เบ็คเก็ตต์ (Samuel Beckett) นักเขียนชื่อดังชาวไอริช ว่า “ลองใหม่ ล้มเหลวอีก ล้มเหลวให้ดีกว่าเดิม” ความล้มเหลวแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกัน และการพ่ายแพ้แต่ละครั้งก็เข้าใกล้ชัยชนะมากกว่าครั้งก่อนหน้า ดังนั้นมีหลากหลายวิธีในการสะท้อนความคิด

ต่อยอดจากข้อแรกถ้าหากเราถนัดในการอ่าน ลองอ่านแบบคิด วิเคราะห์มากขึ้น ใช้เวลาสัก 10 นาทีในการคิดให้ลึกซึ้ง หรือพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องที่เราเรียนรู้ แล้วสะท้อนความคิดเพื่อนำมาปรับใช้กับในชีวิตประจำวัน และข้อผิดพลาดของเรา เพื่อแปรความล้มเหลวเหล่านั้นไปสู่ประสบการณ์เรียนรู้ที่สำเร็จได้ต่อไป หรือใครถนัดฟังแบบพอดแคสต์ หรือคลิปวิดีโอต่าง ๆ ก็ตามก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้เช่นกัน

👍 3. Experiment (เรียนรู้ด้วยการทดลอง ลองทำสิ่งใหม่)

การพัฒนาตนเองไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเอง หรือทำให้ตัวเองเครียดจนเกินไป เพราะบุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่จะมายอมจมอยู่กับความเครียดนาน ๆ แต่เขาเริ่มเรียนรู้และลงมือทำเพื่อพบกับความล้มเหลว ยิ่งเขาล้มมากเท่าไหร่ ก็จะพยายามกลับมาสู้อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นจากความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน

👉 3.1 ค้นหาแนวคิดใหม่และลองทำสิ่งใหม่ ๆ
👉 3.2 เมื่อลองทำสิ่งใหม่ ให้ทำในระดับที่หากล้มเหลวก็ยังรอดได้
👉 3.3 แสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดระหว่างกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ

จงลองทำสิ่งใหม่ ลองทำแบบที่แตกต่างไปจากเดิม เมื่อเราทดลองทำ เราจะได้ทั้งความสนุก และได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น


อย่าลืมนำกฎ The 5-hour rule เรียนรู้ให้ได้อย่างลึกซึ้ง ทุก 1 ชม. ในทุกวัน เชื่อเลยว่าหากวันนี้มันอาจจะยังไม่สำเร็จ แต่เมื่อคุณได้เรียนรู้อย่างไม่หยุด ฝึกทำอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอนี่แหละ ที่จะเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนทัศนคติของคุณให้เป็นคนใหม่ และประสบความสำเร็จในแบบที่คุณอยากให้มันเป็นได้ในที่สุด เป็นกำลังใจให้ทุกคนน๊า 😎✌️🎯


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags