เจาะเบื้องหลังแนวคิดการทำงานกับคนระดับโลก ผู้นำเข้างาน 100% DORAEMON & FRIENDS TOUR IN THAILAND

ธุรกิจคิดได้ เจาะลึกเบื้องหลัง ‘คุณกอล์ฟ - คุณพิชชาภา ณรงค์พันธ์’ หญิงสาวในวันวานผู้รักการ์ตูนญี่ปุ่นจนกลายเป็นผู้กุมบังเหียนธุรกิจอนิเมะและอีเวนต์ IP ระดับประเทศในนาม บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด กับ 5 บทเรียนราคาแพง จากการทำงานกับ ‘คนระดับโลก’

Last updated on พ.ค. 19, 2025

Posted on พ.ค. 19, 2025

“โดราเอมอน” ขนาดใหญ่ใจกลางไอคอนสยาม มีเบื้องหลังเป็นคนไทย ผู้นำเข้าผลงานระดับโลกมาจัดที่เมืองไทยได้สำเร็จ! แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะไม่ใช่ใครที่ไหนก็ทำได้!!

ก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้ อยากลองให้ทุกคน ‘หลับตา’ แล้วนึกถึงวัยเด็กว่าการ์ตูนเรื่องไหน ที่ทำให้คุณอยากสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโดราเอมอนที่มีของวิเศษสุดล้ำ หรือนักล่าอสูร ทุกคนต่างมีฮีโร่ในใจ และบางคนก็นำความฝันนั้นมาเปลี่ยนเป็น “ธุรกิจได้จริง”

นี่คือเรื่องราวของ ‘คุณกอล์ฟ - คุณพิชชาภา ณรงค์พันธ์’ หญิงสาวในวันวานผู้รักการ์ตูนญี่ปุ่นจนกลายเป็นผู้กุมบังเหียนธุรกิจอนิเมะและอีเวนต์ IP ระดับประเทศในนาม บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด และ Japan Anime Movie Thailand (JAM) ผู้ปลุกปั้นตลาดอนิเมะ ที่มีความ Niche อย่างเข้าใจ Insight ของคนไทย ให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตได้อย่างน่าสนใจในไทยมากกว่า 100 เรื่องต้องถือว่า เป็นบริษัทที่มีการจัดจำหน่ายหนังเฉพาะด้านอนิเมะญี่ปุ่นมากที่สุดในประเทศไทย


จุดเริ่มต้นจาก ‘Passion’ ที่ถูกแปลงเป็น ‘ธุรกิจ’

ย้อนกลับไปปี 2018 “บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด” ถือกำเนิดจากการผสมผสานความรู้ ความเข้าใจ ระหว่างประสบการณ์ในวงการหนังของคุณกอล์ฟ และสายเลือดภาพยนตร์จากครอบครัวไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ด้วยพื้นฐานด้านการตลาดภาพยนตร์และประสบการณ์ตรงในการทำงานกับลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่น คุณกอล์ฟจึงมีทั้งความรู้ ความเข้าใจ และ ‘Passion’ จนสร้างบริษัทที่เลือกโฟกัสตลาดอนิเมะญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

310992325_467398335421129_7843244467063448373_n.jpg

ภายใต้แบรนด์ JAM (Japan Anime Movie Thailand) บริษัทได้กลายเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหนังอนิเมะ และภาพยนตร์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยในเวลาไม่กี่ปี ได้นำเข้าอนิเมะมากกว่า 100 เรื่อง ร่วมมือกับค่ายดังอย่าง M Picture, Dex, Muse และ Media Link

อีกมุมที่น่าสนใจคือ ในยุคที่อนิเมะยังถูกมองว่าเป็น ‘ตลาดเฉพาะกลุ่ม’ และถูกจัดฉายเพียงไม่กี่รอบในโรงภาพยนตร์ ซึ่งความเข้าใจพฤติกรรมแฟนคลับและวัฒนธรรมญี่ปุ่นคือหัวใจของการเจาะตลาด คุณกอล์ฟมีความสงสัยว่า ทำไมขนบธรรมเนียม หรือ Culture คนญี่ปุ่น ความน่าสนใจคือ

  • ทำไมคนญี่ปุ่นถึงดูการ์ตูนซ้ำ ๆ
  • ทำไมถึงมีรอบพิเศษ ไหนจะแพ็กตั๋วบวกกับของพรีเมียมมากมาย
  • ทำไมบางเจ้าก็เปลี่ยนสินค้าทุกอาทิตย์ และคนก็กลับไปดูทุกอาทิตย์

แต่พอมองย้อนกลับไปเมื่อ 8-9 ปีที่แล้วในไทยเรา การ์ตูนญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ Niche Market(ตลาดเฉพาะกลุ่ม) มาก แทบจะไม่มีโอกาสได้เข้าเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่จากความพยายามที่คุณกอล์ฟเชื่อว่าตัวเราสามารถทำให้วงการอนิเมะเติบโตได้ ด้วยการมองเห็นโอกาส โดยเลือกไม่วิ่งตามแค่ Box Office แต่ลงทุนระยะยาวกับความสัมพันธ์แฟนคลับ โดยจัดรอบพิเศษ, ขายของพรีเมียมที่ปรับเปลี่ยนไปตามอีเวนต์ที่จัด หรือจัดงานเล็ก ๆ เพื่อรักษา ‘ความรู้สึกของคนที่มีความชอบเหมือนกันของกลุ่มแฟนคลับ’

“ไม่ใช่แค่หนังดังเท่านั้นที่เราต้องดูแล ทุกเรื่องต้องถูกจัดการอย่างเหมาะสมกับหน้าหนัง เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน”

จากโรงหนัง สู่ Exhibition และการทำ Merchandising

ซึ่งโดยปกแล้วก็มีการนำอนิเมะมาฉายอยู่เรื่อย ๆ ปีนึงก็คืออาจจะมีประมาณ 10 เรื่อง เราก็ไล่ทํามาเรื่อย ๆ ทำหนังทุกสเกล ตั้งแต่แบบ SAYOASA, Fate/kaleid liner prisma illya movie, my hero academia และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญคือความสำเร็จของอนิเมะ ‘Demon Slayer’ ที่ทำรายได้ถึง 180 ล้านบาท

โดยสิ่งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า มันไม่ใช่แค่ชัยชนะของอนิเมะในโรงภาพยนตร์ แต่เป็นใบเบิกทางสู่จักรวาลใหม่ของคุณกอล์ฟ โดยมีบริษัทอื่นมองเห็นว่าสามารถทำการตลาดได้มากกว่าแค่ภาพยนตร์ ที่ผันตัวเองมาทำนิทรรศการ (Exhibition) ซึ่งเป็น IP ที่มีชื่อเสียง และการขายสินค้า Merchandising แบบจริงจัง โดยเริ่มจาก

Junji Ito Exhibition ที่แม้จะเป็น IP สุด Niche ที่เรียกได้ว่ามีหลายบริษัทไม่กล้าที่จะรับไปทำเพราะมันมีความเฉพาะกลุ่มมาก ๆ แต่กลับมีแฟนคลับแห่ชมกว่า 60,000 คน ทั้งรายได้จากบัตรเข้าชม (ticketing) และรายได้จากสินค้า (merchandising) ทั้งที่ห้ามถ่ายรูป ต้องเดินตัวเปล่า และยังสร้างยอดขายสินค้าสูงลิ่ว นั่นทำให้ ‘นิทรรศการ’ กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก และตามมาด้วยงานอื่น ๆ อีกมากมาย

Spy x Family Pop-up Store หลังจากจบ Junji Ito ทาง Muse ได้แนะนำให้ทำ Pop-up Store ของ Spy x Family ซึ่งเป็นงานเข้าฟรี เน้นการขายสินค้าและขนม แม้จะเป็นงานเข้าฟรีและลงทุน แต่ก็ทำรายได้ถึง 10 ล้านบาทใน 2 เดือน ซึ่งรายได้หลักมาจากการขายสินค้า 482068710_1053692023458421_159439751279939769_n.jpg

Muse Anime Festival เป็นการรวม IP ต่างๆ ของ Muse กว่า 12 IP และสินค้าเกือบ 20 คาแรคเตอร์ งานนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจ merchandising

Detective Conan Pop-up Store อีกหนึ่งงานที่จัดให้กับทาง Dex บริษัทชั้นนำในการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์อนิเมะจากญี่ปุ่น

เรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง! ของความสำเร็จที่ทุกคนได้เห็นอย่างจับต้องได้ แต่ในเบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านี้กลับต้องแลกมาด้วยความยากลำบากมากมาย เราต้องเข้าใจก่อนว่า ‘การทำงานกับคนต่างชาติ’ ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแล้วประสบความสำเร็จ! คุณกอล์ฟได้ทำงานกับทั้งคนญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ไต้หวัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนเก่งมารวมตัวกัน โดยเฉพาะเก่งในแง่ คิด วิเคราะห์ วางแผนก่อนเสมอ แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ ก็ละเอียดอย่างมาก

Passion อย่างเดียวไม่พอ “แต่….ต้องละเอียดอย่างมีระบบ" 5 บทเรียนราคาแพง จากการทำงานกับ ‘คนระดับโลก’

1. อย่ารอเพียงเพราะไม่มั่นใจ….เพราะบางครั้งการรอ ก็อาจทำให้เสียโอกาสได้

การเตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อ เพื่อวันนึงที่เราจะเดินไปคว้าโอกาส สำคัญมากในการทำงานกับคนระดับโลก แม้จะเคยมีคำพูดที่ว่า ‘กาลเวลาจะพิสูจน์คน’ แต่ในโลกธุรกิจจะมามัวรอพิสูจน์ในจังหวะที่ต้องคว้าโอกาสไม่ได้ เพราะ “ผลงานจะเป็นตัวมัดใจให้คนระดับโลกสนใจเรา!”

หนึ่งในผลงานที่เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกันดีนั่นก็คือ “The Conjuring Universe Tour” อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่พึ่งจัดไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยคุณกอล์ฟไปเจออีเวนต์นี้ที่ไต้หวัน ซึ่งเจ้าตัวเองก็ได้ไปลองสัมผัสประสบการณ์จนเกิดความชอบขึ้น ความน่าสนใจคือ คุณกอล์ฟอยากนำอีเวนต์นี้มาจัดที่เมืองไทย ด้วยความที่เป็นผู้ประกอบการไฟแรง จึงมุ่งหน้าไปถามเจ้าหน้าที่ในงาน จนสามารถเข้าถึงคนจัดงานได้ เพื่อแลกนามบัตรทำความรู้จักกัน แม้ในวันนั้นสภาพอากาศฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม แต่คุณกอล์ฟก็ไม่เคยมีข้ออ้าง ซึ่งในวันนั้นเองด้วย ความโชคดีของคุณกอล์ฟ มาจาก ‘ความกล้า และคว้าโอกาสไว้เอง’ เพราะคนที่ไปคุยด้วย เขาเองก็เชื่อมั่นในคุณกอล์ฟจากทั้งผลงานที่ผ่านมา และ Passion ในแววตาความตั้งใจของคุณกอล์ฟ

แต่แน่นอนว่าการทำงานไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด โปรเจกต์นี้ใช้เวลาทำงานหลักปี! ในการส่งอีเมลหากันถึง 8 เดือน เพื่อพิชิตความสามารถตัวเองในการนำ The Conjuring Universe Tour มาจัดที่เมืองไทยได้สำเร็จ โดยการทำงานนี้เป็นความท้าทายใหม่เพราะไม่ได้เกี่ยวกับอนิเมะญี่ปุ่นโดยตรงแบบที่ผ่าน ๆ มา

อีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ คือการหาสถานที่จัดงานเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะมีราคาสูง คุณกอล์ฟได้เรียนรู้เรื่องข้อจำกัดของสถานที่ที่ต้องการผู้เช่าระยะยาวเป็นปี งาน The Conjuring Universe Tour ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีคนมาจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติและกลุ่มที่มีกำลังซื้อ หรือแม้กระทั่ง Set Prop ทั้งหมดถูกยกมาจาก Universal ทำให้เป็นงานระดับสากล

คุณกอล์ฟ และทีม ได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างบรรยากาศและความน่ากลัว ในประเทศไทยมีการจัดแสดงถึง 20 ห้อง ซึ่งมากกว่าที่ไต้หวันที่จัดเพียง 8 ห้อง การตัดสินใจทำ 20 ห้อง ครั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสครบถ้วนทั้งจักรวาล ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเดินไปคว้าโอกาส และโอกาสนั้นก็ได้ส่งผลให้กับคนที่พร้อมลุย พร้อมที่จะลงมือทำเสมอ!

2. อย่ามัวแต่รอคำตอบ เพราะมันจะไม่ช่วยให้ ‘คุณคิดเป็น!’

คุณกอล์ฟเล่าให้ฟังว่า ตอนทำงานที่ Dex ใหม่ ๆ เราจะถูกฝึกว่า “เราจะได้คำถามจากสิ่งที่เราถามเขาเสมอ” แต่เราไม่เคยได้คำตอบจากสิ่งที่ถามเลย แล้วก็มักจะโดนกลับเสมอว่า “เราได้คิดหรือยัง ก่อนจะถาม ?” พอมันถูกฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ด้วยการคิดก่อนถามเสมอ ยิ่งเราฝึกบ่อยเข้า ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก มันทำให้เรา ‘คิดเป็น’ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ

การฝึกคิดบ่อย ๆ คุณกอล์ฟได้นิยามมันว่า ให้มองภาพเหมือน Operation Plan ลองกางมันออกมาเพื่อให้เราเห็นภาพกว้าง สมมุติเราจะทำอีเวนต์สักอย่าง มันต้องเริ่มจากอะไร กางแผนมันออกมาให้ละเอียดที่สุด แล้วเราก็จะเห็นว่าทำอะไรก่อนหลัง ค่อย ๆ คิดเป็น Step มันมีความยาก และมีรายละเอียด แต่นี่แหละคือความมืออาชีพในการทำงานกับคนญี่ปุ่น, ฮ่องกง และไต้หวัน เพราะคนเหล่านี้เขาก็ถูกฝึกมาเหมือนกัน

ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าในหลาย ๆ งานของคนต่างชาติ เรามักจะชื่นชมว่าทำไมเขาทำสวย ทำถึง งานออกมาดูดี แต่หารู้ไม่ว่า ในเบื้องหลังของความสวยงาม มันมีรายละเอียดยิบย่อย ที่กัดไม่ปล่อยอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คืองาน ““100% DORAEMON & FRIENDS” Tour (Thailand) หนึ่งในนิทรรศการโดราเอมอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” หากใครไม่ได้ไป ลองไปรับชมงานระดับโลกกันดูสักครั้ง เพราะเบื้องหลังนั้นมีคนไทยอย่างทีมคุณกอล์ฟ (ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่) ที่พวกเขาเองก็มี Mindset การทำงานระดับโลกแล้วเช่นกัน

31.jpg

3. อย่าเอาความชอบตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะ ‘ทีม’ มีความสำคัญมาก!

คุณกอล์ฟบอกว่า ‘การทำงานกับญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง และทุกคนที่เราทำงานด้วย คือบทเรียนสำคัญ เพราะคนเหล่านี้ โคตรจะเก่ง!! แต่ Challenge สำคัญคือ “เราจะทำอย่างไรให้คนของเราติดสปีดตามเขาให้ทัน” การเชื่อมั่นในศักยภาพของทีม คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการทำงานกับคนระดับโลก

ดังนั้นก่อนที่เริ่มทำบริษัท การคัดเลือกคนเข้ามาทำงานสำคัญมาก ถ้ากระดุมเม็ดแรกติดมาดี โอกาสที่ทีมของเราจะยกระดับศักยภาพตัวเอง มันจะออโต้ขึ้นมาเอง เพราะคนเก่งส่วนใหญ่ ก็อยากจะท้าทายขีดจำกัดตัวเองทั้งนั้น โดยน้อง ๆ ในทีมของคุณกอล์ฟส่วนใหญ่เป็นเด็กสายอนิเมะ มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับญี่ปุ่น และมีความอินในงานอนิเมะจริง ๆ การทำงานทั้งหมดจึงขับเคลื่อนด้วย Passion ไม่ใช่แค่จากคุณกอล์ฟคนเดียว แต่จากทุกคนในบริษัท

ซึ่งการมี Passion ต่อการทำงานเป็นส่วนหนึ่งทำให้ทีมพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ เรียนรู้การทำงานกับคนระดับโลก จนในที่สุดทีมก็สามารถรับมือกับความท้าทายในการทำงานที่ละเอียดและต้องการความรวดเร็วในการตอบสนองจากพาร์ทเนอร์ต่างชาติได้

4. “อัปเดตว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และลงรายละเอียดให้แม่นยำ” คือหัวใจหลักในการทำงานกับคนต่างชาติ!

ลองคิดภาพตามว่า การทำงานกับพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การสื่อสารทางอีเมล, โทรศัพท์ หรือการประชุมออนไลน์ ซึ่งโอกาสที่จะมาเจอกันแบบ Face to Face น้อยครั้งมาก ดังนั้นเรื่องของการใช้ภาษาและการสื่อสารที่ชัดเจน มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะเรื่องของ “การให้ Feedback ที่รวดเร็ว และการอัปเดตสิ่งที่กำลังทำอยู่”

การเงียบใส่กัน หรือการละเลย สื่อสารแบบเข้าใจผิดกัน (Miscommunication) คือสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเลยในการทำงานกับคนต่างชาติ ยิ่งอยู่ต่างแดนกันจะยิ่งแก้ปัญหายากทวีคูณ

หนึ่งในเคสที่คุณกอล์ฟจำได้ไม่มีวันลืมอย่างการเชิญ “คุณยูกิ ยามาดะ” ดาราชื่อดังจากญี่ปุ่นมาเมืองไทย แต่รู้ไหมว่ากว่าจะได้ดาราของเขามา เพื่อบินลัดฟ้ามาเมืองไทย เบื้องหลังคือสุดจะตึงมาก!

  • ทีมคุณกอล์ฟมีการสื่อสารผ่านอีเมลรวมไปแล้วกว่า 300 ฉบับ
  • แถมระหว่างทางยังมีการทำกำหนดการ (Schedule) เป็นรายนาที
  • ทำ Countdown 3 วันที่มา ก็ต้องทำเป็นรายนาที
  • ทำแผนผังการเดินทางอย่างละเอียด เช่น ขึ้นลิฟต์ตัวไหน, ออกมาแล้วเลี้ยวขวา หรือ เลี้ยวซ้าย และต้องผ่านอะไรบ้าง เป็นต้น

แม้กระทั่งทีมญี่ปุ่นที่มา เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าต้องเจอกันใน 3 นาที หรือเวลาเลยมา 30 วินาที ก็ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป๊ะ! ซึ่งนี่แหละคือที่มาของคำว่า ‘การคิดทุกระเบียบนิ้ว’ คือคิดทุกจุด ทุก Journey ของการเดินทาง ซึ่งสิ่งนี้สอนทีมทำงานของคุณกอล์ฟเป็นอย่างมาก

จึงเป็นที่มาว่าการสื่อสาร การอัปเดตว่า Status ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ต่อไปทำอะไรบ้าง รวมถึงใส่ใจในความละเอียด ที่ทีมคุณกอล์ฟยอมทำงานหนักเพิ่มขึ้น และในที่สุดผลลัพธ์ก็ประจักษ์ชัดเจน ทำให้เกิดความประทับใจของคนญี่ปุ่น, ฮ่องกง และคนไต้หวัน นี่คือหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญที่ทำให้ทีมคุณกอล์ฟถูกให้ความไว้วางใจกับคนต่างชาติอย่างแท้จริง

5. ทำให้เขาเห็นถึงความตั้งใจ เพื่อสร้าง Trust ร่วมกันอย่างแท้จริง

คุณกอล์ฟบอกว่า ‘ไม่แน่ใจว่าเป็นเทคนิคไหม’

แต่เชื่อว่าการแสดงความตั้งใจและความพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ การสื่อสารที่ดีและรวดเร็ว เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานกับคนต่างชาติมาก ๆ นอกจากนี้ การมองพาร์ทเนอร์เป็นเพื่อนร่วมงาน (partner) ที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช่แค่ผู้จ้างหรือผู้รับจ้าง ก็สำคัญเช่นกัน เพราะเป้าหมายคือการเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับคุณกอล์ฟ ถ้าเกิดในวันนี้หนังขาดทุน คุณกอล์ฟก็จะช่วยเหลือกันโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ถ้าได้กำไรก็จะแบ่งปันกัน การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว (long-term partnership) เป็นสิ่งสำคัญ คุณกอล์ฟเชื่อว่าหากเรามีความจริงใจในการแก้ปัญหา, สื่อสารกันได้ดี และทำให้พาร์ทเนอร์เข้าใจสถานการณ์ของเรา

เราต้องกล้าที่จะเริ่มต้น และแสดงความเป็นตัวเราให้พาร์ทเนอร์เห็นว่า ทำไมถึงควรเชื่อเราและหยิบยื่นเอางานมาให้เราทำ ถ้าเราทำให้เขาไว้ใจได้ และไม่ใช่แค่ไว้ใจในงาน แต่เป็นเพื่อนคู่คิดกันได้ด้วย ถามสารทุกข์สุขดิบกัน แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ

ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยคน ทุกวันนี้พาร์ทเนอร์ที่คุณกอล์ฟทำงานด้วยยาวนานถึง 7-8 ปี ก็เกิดจากการทำให้ทุกคนเห็นถึงความจริงใจ เราไม่ใช่แค่ทีมรับจ้าง แต่เราเป็นทีมที่จะโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ร่วมกันจริง ๆ

ผลงานล่าสุดจาก บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ ในการนำ นิทรรศการใหญ่ระดับโลก ของหุ่นยนต์แมวฟ้าที่ทุกคนคิดถึง “100% DORAEMON & FRIENDS TOUR IN THAILAND”

ปิดท้ายบทสัมภาษณ์นี้ เชื่อว่าหลายคนคงได้แรงบันดาลใจ หรือเทคนิคดี ๆ กลับไปปรับใช้ในงาน เลยอยากชวนคุณผู้อ่านทุกคนไปดูงานของคนที่ตั้งใจทำ ตั้งใจเนรมิตสร้างสรรค์ออกมา เพื่อให้ได้งานที่สร้างสรรค์แบบต้นฉบับมากที่สุด และดีที่สุด

คุณกอล์ฟบอกว่า เราคือ ‘โนบิตะ’ ที่มีโดราเอมอน หรือพาสเนอร์ ที่เป็นเพื่อนคู่คิดจนทำให้เราสามารถทำงานในระดับโลกได้ เพราะการมีที่พึ่งที่ดี มีคนมาให้ความคิดดี ๆ กับเรา หรือคนรอบตัวที่ดี มันจะนำพาให้เราไปในเส้นทางที่ดี หรือแม้ในวันที่เราล้ม คุณกอล์ฟก็จะเป็นโนบิตะที่ล้มแล้วเรียนรู้อยู่เสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โดราเอมอนที่เราดูกันอยู่ทุกวันนี้ เขาตั้งใจที่จะสอดแทรกเรื่องนี้ให้เราได้เรียนรู้กันที่มากไปกว่าของวิเศษนั่นเอง

เรื่องราวของคุณกอล์ฟ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของคนที่ชอบการ์ตูน แต่มันคือบทพิสูจน์ว่า เมื่อเรามี Passion แล้วลงมือทำ รวมถึงยังมองหาโอกาสอยู่เสมอ แม้ในตลาดเล็ก ก็สามารถสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ได้

ธุรกิจที่เริ่มต้นจาก ‘ความชอบในวัยเด็ก’ วันนี้กลายเป็นธุรกิจที่ ‘ปลุกวัยเด็กในใจคนดู’ และสร้างเศรษฐกิจจากความทรงจำอย่างจับต้องได้ เกิดรายได้หล่อเลี้ยงให้ทั้งตัวธุรกิจ และคนรอบตัวได้จริง


สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมงานนิทรรศการ “100% DORAEMON & FRIENDS TOUR IN THAILAND” ได้ที่ Event pass และ Klook.com


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ - งานที่รวมโดราเอมอนไว้มากที่สุดในไทย!! พบกับโดราเอมอนยักษ์สูงกว่า 12 เมตร ส่งตรงจากญี่ปุ่น เปิดจองบัตร 8 เมษายน นี้!


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทางเพจ 
Facebook : 100% DORAEMON&FRIENDS TOUR THAILAND 
Instagram : doraemon100_tour_thailand 
TikTok : 100% DORAEMON&FRIENDS 


สัมภาษณ์, เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

trending trending sports recipe

Share on

Tags